น้ำทะเลกินได้ไหม ปลอดภัยหรืออันตราย

น้ำทะเล เป็นที่รู้กันดีว่ามัน “กินไม่ได้” แต่ก็ยังสามารถนำมากรองได้อยู่ สำหรับใครกำลังคิดว่าน้ำทะเลหากเข้าปากเรานิดหน่อยไม่เป็นไรกลืนลงไปได้ เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยครับ เพราะถึงแม้มันจะดูสดใสก็ตาม แต่ภายในของน้ำทะเลมีทั้งเกลือประมาณมาก รวมถึงเชื้อโรคต่างๆที่เยอะจนนับไม่ไหวเลยล่ะครับ 

ไม่ว่าจะมาจากของเสียจากสัตว์ในทะเล หรือสิ่งของที่คนทิ้งลงทะเล รวมถึงตะไคร่น้ำหรือพืชน้ำที่ปล่อยของเสียออกมาจากการกัดเซาะเสาเข็ม หรืออุปกรณ์ต่างๆครับ

น้ำทะเล

ทำไมน้ำทะเลถึงกินไม่ได้

  1. เค็มมากเกินไป
  • น้ำทะเลมี เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ประมาณ 35 กรัม/ลิตร ในขณะที่ร่างกายเรารับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นดื่มเข้าไป = ร่างกายยิ่งขาดน้ำ เพราะต้องใช้น้ำจากเซลล์เพื่อขับเกลือออก
  1. ทำให้ “ขาดน้ำ” แทนที่จะได้น้ำ
  • พอดื่มน้ำทะเล ร่างกายต้องขับเกลือออกทางปัสสาวะ
  • แต่ไตไม่สามารถขับเกลือออกได้มากพอถ้าไม่มีน้ำจืดเพียงพอ
  1. อาจมีเชื้อโรคหรือสารปนเปื้อน
  • แม้จะดูสะอาด แต่ในน้ำทะเลอาจมี: แบคทีเรีย สารเคมีจากเรือหรือโรงงาน สารพิษจากแพลงตอน ดื่มเข้าไป = เสี่ยงท้องเสีย, อาเจียน, หรือติดเชื้อแทนได้
ทะเล

เชื้อโรคในน้ำทะเลมีอะไรบ้าง เยอะไหม?

น้ำทะเลบอกตามตรงว่ามีเชื้อโรคเยอะมากๆครับ เคยได้ยินคำนี้ไหม “แบคทีเรียกินคน” อันนี้ถ้ากินน้ำทะเลเข้าไปจะทำให้คำพูดข้างต้นไม่เกินจริงเลยครับ

เชื้อโรคที่สามารถพบได้ในน้ำทะเล

  1. Vibrio spp. (เช่น Vibrio vulnificus, Vibrio parahaemolyticus)
  • เจอได้บ่อยในน้ำทะเลอุ่น (เช่นชายฝั่งประเทศไทย)
  • มักปนเปื้อนในอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม
  • อาจทำให้เกิด:

    • ท้องเสีย
    • แผลติดเชื้อ → ถ้าเข้าทางผิวหนังที่มีแผล
    • กรณีรุนแรงอาจลุกลามจนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด
  1. E. coli และเชื้อในกลุ่ม Coliform
  • ปกติไม่ควรอยู่ในทะเล แต่เข้าไปจาก “น้ำเสียของมนุษย์”
  • บ่งบอกว่าน้ำอาจปนเปื้อนอุจจาระ
  • เสี่ยงท้องเสียและอาหารเป็นพิษ ถ้ากลืนหรือเล่นน้ำโดยมีแผล
  1. Enterovirus (ไวรัสทางเดินอาหาร)
  • เช่น Norovirus, Rotavirus
  • ติดจากน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระ
  • ทำให้เกิดอาการ: ท้องเสียรุนแรง อาเจียน ไข้
  1. Pseudomonas aeruginosa
  • พบบ่อยในน้ำทะเลที่อุณหภูมิสูง
  • อันตรายต่อคนที่มีแผล หรือใส่คอนแทคเลนส์ → ติดเชื้อตา/ผิวหนังได้
  • อาจทำให้เกิด “หูชั้นนอกอักเสบ” หรือที่เรียกว่า หูนักว่ายน้ำ
  1. Staphylococcus aureus (รวมถึงสายพันธุ์ดื้อยา – MRSA)
  • มาจากคนหรือสัตว์เลี้ยงที่ลงน้ำ
  • เข้าได้ทางแผลหรือรอยถลอก → ทำให้ติดเชื้อผิวหนัง
  1. พยาธิ และโปรโตซัวบางชนิด
  • เช่น Naegleria fowleri (อะมีบากินสมอง) → พบได้ยากมาก แต่มักอยู่ในน้ำอุ่นที่นิ่ง ไม่ไหลเวียน
  • หรือ Cryptosporidium, Giardia → จากน้ำเสียที่ไหลลงทะเล

เชื้อพวกนี้เยอะมากไหม

ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมของทะเลแต่ละจุด เช่น:

  • ใกล้ชุมชน → เชื้อโรคเยอะ
  • หลังฝนตกหนัก → น้ำทิ้งลงทะเล เชื้อพุ่ง
  • แถวท่าเรือ, น้ำไม่ไหลเวียน → ความเสี่ยงสูง

สรุป

น้ำทะเลกินไม่ได้ และห้ามกินเด็ดขาดถึงแม้ว่าจะเข้าปากเพียงเล็กน้อยก็ตาม แนะนำว่าให้ขึ้นมาจากทะเลและหาน้ำดื่มดื่มดีกว่าครับ และหากว่าดูแล้วการลงไปเล่นในทะเลช่วงไหนอันตรายก็แนะนำว่านอนอยู่บนกดหวยไวไม่ต้องออกไปเสี่ยงจะดีที่สุดครับ

Scroll to Top