น้ำทะเล เป็นที่รู้กันดีว่ามัน “กินไม่ได้” แต่ก็ยังสามารถนำมากรองได้อยู่ สำหรับใครกำลังคิดว่าน้ำทะเลหากเข้าปากเรานิดหน่อยไม่เป็นไรกลืนลงไปได้ เป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยครับ เพราะถึงแม้มันจะดูสดใสก็ตาม แต่ภายในของน้ำทะเลมีทั้งเกลือประมาณมาก รวมถึงเชื้อโรคต่างๆที่เยอะจนนับไม่ไหวเลยล่ะครับ
ไม่ว่าจะมาจากของเสียจากสัตว์ในทะเล หรือสิ่งของที่คนทิ้งลงทะเล รวมถึงตะไคร่น้ำหรือพืชน้ำที่ปล่อยของเสียออกมาจากการกัดเซาะเสาเข็ม หรืออุปกรณ์ต่างๆครับ

ทำไมน้ำทะเลถึงกินไม่ได้
- เค็มมากเกินไป
- น้ำทะเลมี เกลือ (โซเดียมคลอไรด์) ประมาณ 35 กรัม/ลิตร ในขณะที่ร่างกายเรารับได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นดื่มเข้าไป = ร่างกายยิ่งขาดน้ำ เพราะต้องใช้น้ำจากเซลล์เพื่อขับเกลือออก
- ทำให้ “ขาดน้ำ” แทนที่จะได้น้ำ
- พอดื่มน้ำทะเล ร่างกายต้องขับเกลือออกทางปัสสาวะ
- แต่ไตไม่สามารถขับเกลือออกได้มากพอถ้าไม่มีน้ำจืดเพียงพอ
- อาจมีเชื้อโรคหรือสารปนเปื้อน
- แม้จะดูสะอาด แต่ในน้ำทะเลอาจมี: แบคทีเรีย สารเคมีจากเรือหรือโรงงาน สารพิษจากแพลงตอน ดื่มเข้าไป = เสี่ยงท้องเสีย, อาเจียน, หรือติดเชื้อแทนได้
เชื้อโรคในน้ำทะเลมีอะไรบ้าง เยอะไหม?
น้ำทะเลบอกตามตรงว่ามีเชื้อโรคเยอะมากๆครับ เคยได้ยินคำนี้ไหม “แบคทีเรียกินคน” อันนี้ถ้ากินน้ำทะเลเข้าไปจะทำให้คำพูดข้างต้นไม่เกินจริงเลยครับ
เชื้อโรคที่สามารถพบได้ในน้ำทะเล
- Vibrio spp. (เช่น Vibrio vulnificus, Vibrio parahaemolyticus)
- เจอได้บ่อยในน้ำทะเลอุ่น (เช่นชายฝั่งประเทศไทย)
- มักปนเปื้อนในอาหารทะเลดิบ เช่น หอยนางรม
- อาจทำให้เกิด:
- ท้องเสีย
- แผลติดเชื้อ → ถ้าเข้าทางผิวหนังที่มีแผล
- กรณีรุนแรงอาจลุกลามจนถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด
- E. coli และเชื้อในกลุ่ม Coliform
- ปกติไม่ควรอยู่ในทะเล แต่เข้าไปจาก “น้ำเสียของมนุษย์”
- บ่งบอกว่าน้ำอาจปนเปื้อนอุจจาระ
- เสี่ยงท้องเสียและอาหารเป็นพิษ ถ้ากลืนหรือเล่นน้ำโดยมีแผล
- Enterovirus (ไวรัสทางเดินอาหาร)
- เช่น Norovirus, Rotavirus
- ติดจากน้ำที่ปนเปื้อนอุจจาระ
- ทำให้เกิดอาการ: ท้องเสียรุนแรง อาเจียน ไข้
- Pseudomonas aeruginosa
- พบบ่อยในน้ำทะเลที่อุณหภูมิสูง
- อันตรายต่อคนที่มีแผล หรือใส่คอนแทคเลนส์ → ติดเชื้อตา/ผิวหนังได้
- อาจทำให้เกิด “หูชั้นนอกอักเสบ” หรือที่เรียกว่า หูนักว่ายน้ำ
- Staphylococcus aureus (รวมถึงสายพันธุ์ดื้อยา – MRSA)
- มาจากคนหรือสัตว์เลี้ยงที่ลงน้ำ
- เข้าได้ทางแผลหรือรอยถลอก → ทำให้ติดเชื้อผิวหนัง
- พยาธิ และโปรโตซัวบางชนิด
- เช่น Naegleria fowleri (อะมีบากินสมอง) → พบได้ยากมาก แต่มักอยู่ในน้ำอุ่นที่นิ่ง ไม่ไหลเวียน
- หรือ Cryptosporidium, Giardia → จากน้ำเสียที่ไหลลงทะเล
เชื้อพวกนี้เยอะมากไหม
ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับ สภาพแวดล้อมของทะเลแต่ละจุด เช่น:
- ใกล้ชุมชน → เชื้อโรคเยอะ
- หลังฝนตกหนัก → น้ำทิ้งลงทะเล เชื้อพุ่ง
- แถวท่าเรือ, น้ำไม่ไหลเวียน → ความเสี่ยงสูง
สรุป
น้ำทะเลกินไม่ได้ และห้ามกินเด็ดขาดถึงแม้ว่าจะเข้าปากเพียงเล็กน้อยก็ตาม แนะนำว่าให้ขึ้นมาจากทะเลและหาน้ำดื่มดื่มดีกว่าครับ และหากว่าดูแล้วการลงไปเล่นในทะเลช่วงไหนอันตรายก็แนะนำว่านอนอยู่บนกดหวยไวไม่ต้องออกไปเสี่ยงจะดีที่สุดครับ